ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมควรมองหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมไว้เป็นทางเลือกสำหรับปีใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามา
จากรายงาน Hype Cycle for Emerging Technologies ของการ์ทเนอร์ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เผยรายละเอียดแนวโน้มของเทคโนโลยีแห่งในอนาคตที่กำลังกลายเป็นจริง รายงานพบว่าเทคโนโลยีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าจะส่งผลต่อการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้องค์กรต่างๆ ในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า
Brian Burke รองประธานฝ่ายการวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่าการตัดสินใจว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะใช้ในองค์กรของคุณนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและมีความแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กร
“เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่เหล่านี้แต่ละอย่างกำลังมีอัตราความก้าวหน้าที่แตกต่างกันไป และแต่ละเทคโนโลยีก็มีการนำไปใช้งานที่หลากหลาย ผู้นำด้านเทคโนโลยีในองค์กรจำเป็นต้องมองหาเทคโนโลยีและแยกแยะให้ได้ว่าเทคโนโลยีไหนมีความพร้อมเพียงพอที่จะเอามาปรับใช้กับการใช้งานเฉพาะของพวกเขาหรือไม่”
Burke ตั้งข้อสังเกตว่า อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความต้องการทางธุรกิจของคุณ หากธุรกิจมีการนำเทคโนโลยีมาใช้งานได้อย่างสอดคล้องกับการใช้งานทางธุรกิจโดยทั่วไปก็จะพบว่าเทคโนโลยีมีความคุ้มค่าน่าลงทุน
ต่อไปนี้เป็น 5 เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่น่าสนใจ พร้อมกับตัวอย่างการนำไปใช้งาน
- การตรวจจับและการทำงานแบบเคลื่อนที่
“การตรวจจับและการทำงานแบบเคลื่อนที่ดูเหมือนจะเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันมาก แต่จริงๆ แล้วมีความเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด เพราะการตรวจจับจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานแบบเคลื่อนที่” Burke กล่าว
องค์กรที่คิดจะใช้เทคโนโลยีการตรวจจับและการทำงานแบบเคลื่อนที่ควรตรวจสอบประเภทของการนำมาใช้งานของตนเองก่อนว่าต้องการใช้งานกล้องตรวจจับสามมิติ, ระบบคลาวด์AR, โดรนส่งสินค้าน้ำหนักเบา, ยานพาหนะอัตโนมัติ ซึ่งรายงานพบว่าทั้งหมดนี้เป็นเทคโนโลยีที่กำลังอยู่ในกระแส
- เทคโนโลยีมนุษย์เสมือน
รายงานระบุเทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ในส่วนของมนุษย์เสมือน ประกอบด้วย ไบโอชิป, การแสดงตัวตน, ปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์, อารมณ์แบบ AI, พื้นที่ทำงานเสมือนจริง และเทคโนโลยีชีวภาพ
Burke กล่าวเสริมว่า “เมื่อเราพูดถึงมนุษย์เสมือน เรากำลังพูดถึงการให้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ผู้คน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ผ่านทางพื้นที่ทำงานเสมือนจริง ซึ่งช่วยให้คุณทำงานได้จากทุกที่ หรือประสบการณ์ในการใช้งานจริงเช่นแขนขาเทียม”
- การประมวลและการสื่อสารหลังยุคคลาสสิก
Burke กล่าวว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารแบบคลาสสิกที่เกิดขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาถูกคาดการณ์ภายใต้กฎหมายของมัวร์
อย่างไรก็ตาม Burke ตั้งข้อสังเกตว่า “การประมวลและการสื่อสารหลังยุคคลาสสิกครอบคลุมการใช้งานเทคโนโลยีพื้นฐานในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้เรามีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนด้านการประมวลและการสื่อสาร”
Burke ยกตัวอย่างของสิ่งนี้ก็คือดาวเทียมวงโคจรต่ำ “ดาวเทียมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ซึ่งทำให้เราจะเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ด้อยโอกาส”
รายงานระบุว่าองค์กรควรพิจารณการประมวลและการสื่อสารหลังยุคคลาสสิก หากพวกเขามีการใช้งาน 5G หน่วยความจำยุคถัดไป ระบบดาวเทียมวงโครจรต่ำ และการพิมพ์ระดับนาโน 3 มิติ
- ระบบนิเวศดิจิทัล
Burke ระบุว่า “เรามีระบบนิเวศต่างๆ นับตั้งแต่ธุรกิจเริ่มต้น แต่ระบบนิเวศดิจิทัลเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีที่เทคโนโลยีดิจิทัลลดปัญหาและอุปสรรคในระบบนิเวศทางธุรกิจ” นอกเหนือจากการเป็นดิจิทัลมากขึ้นและลดปัญหาและอุปสรรคแล้ว ระบบนิเวศเหล่านี้ยังมีการกระจายศูนย์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตัวเองและลดอำนาจของบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ได้
รายงานระบุตัวอย่างของเทคโนโลยีระบบนิเวศดิจิทัลว่าประกอบด้วย DigitalOps กราฟความรู้ ข้อมูลสังเคราะห์ เว็บแบบกระจายศูนย์และองค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์
- ปัญญาประดิษฐ์ และการวิเคราะห์ขั้นสูง
“AI เป็นแนวโน้มที่แพร่หลาย” ที่ไม่เพียงแต่จะแพร่กระจายในองค์กรเท่านั้น แต่เป็นแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นทั่วไป
ตามรายงานระบุว่า การใช้งานที่สำคัญที่สุดของ AI ได้แก่ การเรียนรู้ของเครื่องที่ปรับตัวได้ AI สำหรับระบบชายขอบ (edge AI), การวิเคราะห์ที่ระบบชายขอบ (edge analytic), explainable AI, แพลตฟอร์ม AI ในรูปแบบของบริการ (PaaS), การถ่ายโอนการเรียนรู้, ระบบเครือข่าย GANs ( generative adversarial networks) และการวิเคราะห์กราฟ
“เราเห็นความก้าวหน้าที่สำคัญในอัลกอริธึม AI ทั้งในส่วนของการนำ AI ไปใช้งาน และวิธีการที่ AI ทำให้เกิดความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่เรื่องของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เท่านั้น แต่ตอนนี้มันพร้อมให้บริการกับองค์กรทั่วไปแล้ว” Burke กล่าว