เปิดเผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้พันธวณิชได้รับคัดเลือกใน Top 10 Procurement Tech Solution Providers 2018 บริษัทไทยเพียงหนึ่งเดียวแถวหน้าของผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบจัดซื้อระดับเอเชียแปซิฟิกพร้อมการวางเป้าหมายครั้งใหม่กับการเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ ระดับนานาชาติ
Why Pantavanij? Top 10 Procurement Tech Solution Providers 2018
“เปิดเผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้พันธวณิชได้รับคัดเลือกใน Top 10 Procurement Tech Solution Providers 2018 บริษัทไทยเพียงหนึ่งเดียวแถวหน้าของผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบจัดซื้อระดับเอเชียแปซิฟิกพร้อมการวางเป้าหมายครั้งใหม่กับการเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ ระดับนานาชาติ”
พันธวณิช บริษัทผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านการจัดซื้อ และให้บริการตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับองค์กร ที่เชื่อมต่อกับโซลูชั่นการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ อันดับหนึ่งของเมืองไทย บริษัทที่มีผลักดันให้เกิดมูลค่าธุรกรรมการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ การประมูลสินค้าขององค์กรต่างๆ ในประเทศสูงถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี
ล่าสุดได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ผู้ให้บริการด้านระบบจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ที่ดีที่สุดของปี 2018 หรือ Top 10 Procurement Tech Solution Providers 2018 จาก APAC CIO Outlook สื่อไอทีระดับภูมิภาค เป็นการประกาศและยืนยันอีกครั้งว่า พันธวณิช ก้าวผู้ให้บริการระบบไอทีสัญชาติไทยระดับอินเตอร์ อย่างเต็มภาคภูมิ
อภิสิทธิ์ คุปรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พันธวณิช จำกัด อธิบายให้ฟังว่า กระบวนการคัดเลือกและเกณฑ์การตัดสิน ประกอบด้วย 3 หัวข้อ ประกอบด้วย
ประการแรกความสามารถของแพลตฟอร์มและความครบถ้วนของฟังก์ชั่นซึ่งหมายถึง ต้องมีเป็นแพลตฟอร์มการจัดซื้อที่มีความครอบคลุมตลอดกระบวนการของการจัดซื้อ เริ่มตั้งแต่มีเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยให้ฝ่ายจัดซื้อทำงานร่วมกัน มีการวิเคราะห์และการมีส่วนร่วมในการใช้เครื่องมือที่หลากหลายตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของการจัดซื้อทั้งหมดเพิ่มขึ้น ตั้งแต่การวางแผนและจัดหาไปจนถึงการเจรจาสัญญา การสั่งซื้อ การชำระเงิน และการจัดการซัพพลายเออร์ รวมถึงการแสดงรายงานผ่านอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ
ประการที่สองความสามารถในการยกระดับกระบวนการจัดซื้อลูกค้าไปสู่ดิจิทัล (Digitize Procurement)หมายถึง นโยบายและเครื่องมือที่จะเข้าไปช่วยให้ลูกค้าสามารถปฏิรูประบบการจัดซื้อขององค์กรให้เป็นดิจิทัลเพื่อสร้างกระบวนการอัตโนมัติและการตัดสินใจที่บนฐานข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถลดต้นทุนให้ลูกค้าได้
ประการที่สามวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ใช้เป็นเกณฑ์การตัดสิน ซึ่งอภิสิทธิ์ สะท้อนถึงหลักการของพันธวณิชว่า ต้องการจะยกระดับกระบวนการจัดซื้อของบริษัทในภูมิภาคอาเซียน และทรานส์ฟอร์มธุรกิจในอาเซียนให้เดินเข้าสู่ระบบดิจิทัล ด้วยโซลูชั่นที่สามารถจับต้องได้
“สิ่งที่เราทำ คือเราอยากจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถที่จะทรานส์ฟอร์มระบบการจัดซื้อในองค์กรให้เป็นดิจิทัล 100% ในระดับบอาเซียน พันธวณิชสามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ เหล่านั้นให้มีโซลูชั่นการจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพด้วยเม็ดเงินลงทุนที่ต่ำกว่าการใช้งานระบบจากฝั่งยุโรปหรืออเมริกา สิ่งนี้เราจะทำให้อาเซียนสามารถแปลงไปสู่ดิจิทัลได้”
อภิสิทธิ์ เล่าให้คณะกรรมการตัดสินฟังถึง วิสัยทัศน์ที่เอ็กตรีมหรือสุดโต่ง ซึ่งก็คือ การพัฒนาบริการที่ปรึกษาด้านบริหารต้นทุนโดยอาศัยข้อมูลต่างๆ ในกระบวนการธุรกิจ มาพัฒนาเป็นโซลูชั่น Cost Reduction Analysis ซึ่งก็พร้อมที่จะเริ่มใช้งานจริง เป็นการวิเคราะห์การลดต้นทุนที่ไม่ได้อาศัยเพียงข้อมูลจากกระบวนการจัดซื้ออย่างเดียว แต่อาศัยข้อมูลทั้งหมดในกระบวนการของลูกค้า ทั้ง บิสซิเนส โปรเซส สัญญาต่างๆ ประเมินถึงความสามารถการบริหารต้นทุน ซึ่งเชื่อมั่นว่าเป็นรายเดียวในเมืองไทย หรือไม่กี่รายในอาเซียน
และแน่นอนว่า ด้วยผลงานที่เป็นผู้บริหารจัดการตลาดการจัดซื้อในประเทศไทย รวมมูลค่าราวสองแสนล้านบาทต่อปี ความสามารถของโซลูชั่น ตลอดจนวิสัยทัศน์ละความชัดเจนของเป้าหมาย เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ได้รับคัดเลือกใน Top 10 Procurement Tech Solution Providers 2018 เป็นบริษัทจากประเทศไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ขึ้นมายืนอยู่แถวเดียวกับ อีก 9 บริษัทในเอเชียแปซิฟิก (สิงคโปร์ 3 บริษัท จีน 3 บริษัท และออสเตรเลีย 3 บริษัท)
ออสก้าของวงการโพรเคียวเมนต์
สำหรับพันธวณิช การได้รับคัดเลือกในเวทีระดับภูมิภาคเป็นจุดเริ่มต้นโดยที่ผู้บริหารเองไม่ได้คาดหวังแต่พอได้รางวัลแล้วก็สร้างกำลังใจทุกคนได้อย่างดี “รางวัลดังกล่าวสามารถเสริมความมั่นใจทั้งในมุมมองของภายในองค์กรเองหรือมุมมองจากบริษัทคนไทย ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทที่พัฒนาโซลูชั่นไอทีของไทยสามารถพัฒนาบริการที่ได้การยอมรับในระดับภูมิภาคได้ เป็นจุดพลิกธุรกิจของคนไทยจริงๆ”
“การได้รางวัลดังกล่าว มันทำให้เราเริ่มคุ้นเคยกับกระบวนการพิจารณาจากบริษัทต่างชาติที่มองมายังธุรกิจของคนไทยโดยเฉพาะผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอที อย่างน้อยเราก็ได้รู้วิธีรู้ขั้นตอนกระบวนการซึ่งเชื่อว่าในระดับรางวัลที่สูงขึ้นไปอีกก็มีกระบวนการคล้ายกัน อาจจะเป็นตัวหนึ่งที่จุดประกายให้พันธวณิช รวมถึงบริษัทในไทยอาจจะต้องเริ่มเปิดตัวเอง เข้าประกวดแข่งขันในระดับที่ใหญ่ขึ้น” ผู้บริหารกล่าว
“ผลจากการได้รางวัลมาทำให้องค์กรการดำเนินธุรกิจ และวิธีคิดเปลี่ยนไปในหลายๆ มิติ อาทิ เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นในมุมของผู้เกี่ยวข้องในระดับบริหารขององค์กร ทั้งระดับกรรมการบริหาร ระดับผู้บริหาร หรือผู้ลงทุนที่เปิดโอกาสให้มีการลงทุนเพิ่มเพื่อพัฒนาบริการให้ดีขึ้นในอนาคต”
“ทั้งยังเกิดความภาคภูมิใจต่อพนักงานและความเชื่อมั่นในตนเอง ที่จะเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาตัวเอง สร้างผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีขึ้น เป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรให้คิดอยู่เสมอว่า our market is not limit in Thailand”
“ในมุมของลูกค้านั้น เป็นการยืนยันและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับลูกค้าได้อย่างดี ซึ่งผลพลอยได้ประการแรกคือ การสื่อสารให้ลูกค้าได้เห็นถึงฝีมือ และความสามารถที่มากกว่าแค่การให้บริการโซลูชั่นการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์อย่างเดียว แต่เป็นการเน้นย้ำให้เห็นว่าพันธวณิชสามารถช่วยองค์กรต่างๆ ทรานส์ฟอร์มไปสู่ธุรกิจดิจิทัลได้สิ่งนี้เหมือนกับความมั่นใจว่า พันธวณิชทำอะไรได้มากกว่าที่คิด”อภิสิทธิ์ กล่าว
ความท้าทายในอนาคต
สำหรับองค์กรที่ได้รับรางวัลใหญ่ในระดับภูมิภาค เป็นเสมือนความท้าทายประการหนึ่ง เป็นมาตรฐานที่ต้องยึดมั่นในกระบวนการทำงานในระดับสูงขึ้น และวางเป้าหมายสูงขึ้น อภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า “ต่อจากนี้ไปโจทย์ของเราคงปรับไป คือ ทำอย่างไรให้คนต่างชาติเขายอมรับมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้รางวัลย่อมมีลูกค้าที่เป็นบริษัทในระดับภูมิภาคมองเข้ามาหรือมีโอกาสจะเป็นลูกค้า”
“รวมถึงการบริหารจัดการทั้งในด้านการเปิดสำนักงานที่ต่างประเทศซึ่งสอดรับกับแผนการเติบโตขององค์กร มีความท้าทายรออยู่มากกมาย เช่น การบริหารเงิน การบริหารบุคลากร ถ้าสำนักงานในต่างประเทศนั้นๆ จะอยู่ภายใต้การบริหารของคนไทย ดังนั้น3 ประเด็นหลักๆ ที่จะเป็นความท้าทายในอนาคต นั่นคือ การตลาดและสร้างการรับรู้ของแบรนด์เรื่องการบริหารคน และเรื่องการบริหารจัดการด้านการสื่อสารข้ามสาขาข้ามประเทศ”
สำหรับการตั้งเป้าหมายการผลักดันให้ พันธวณิชขยับขึ้นเป็นผู้ให้บริการตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับองค์กร ที่เชื่อมต่อกับโซลูชั่นการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ ในระดับนานาชาตินั้น อภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ทุกวันนี้เราให้บริการในต่างประเทศ 9 ประเทศ รวมประเทศไทยก็ 10 ประเทศแต่ระบบสนับสนุนหรือโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ยังอยู่ที่ประเทศไทย การที่เราได้รางวัลระดับภูมิภาคมา คล้ายกับเป็นสัญญาณบอกว่า สิ่งนี้คือหนึ่งในความพร้อมของหลายๆ ปัจจัย โดยที่เราปักธงแล้วว่าภายในปี 2020 นี้ เราจะได้เห็นพันธวณิชที่เป็นออฟฟิศของคนไทยในต่างประเทศอย่างแน่นอน”