หากย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีที่แล้ว แนวคิดการทำธุรกิจจัดซื้อและประมูลสินค้าผ่านทางออนไลน์ หรือ eProcurement Platform ยังเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ สำหรับเมืองไทย และยิ่งมีคนมาบอกว่า eProcurement Platform สายพันธุ์ไทยอย่าง “พันธวณิช” จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการตลาดกลางการค้าออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่
TOP 10 ASIA-PACIFIC PROCUREMEMENT TECH SOLUTION PROVIDERS 2018
หากย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีที่แล้ว แนวคิดการทำธุรกิจจัดซื้อและประมูลสินค้าผ่านทางออนไลน์ หรือ eProcurement Platform ยังเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ สำหรับเมืองไทย
และยิ่งมีคนมาบอกว่า eProcurement Platform สายพันธุ์ไทยอย่าง “พันธวณิช” จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการตลาดกลางการค้าออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ ที่สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด eProcurement Platform จากต่างชาติได้อย่างทัดเทียม คงไม่มีใครเชื่อ
ทว่ามาถึงตอนนี้ คำถามนั้นคงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะทุกองค์กรรับรู้เป็นอย่างดีแล้วว่า ถ้าองค์กรขนาดกลางและใหญ่ต้องการแพลตฟอร์มจัดซื้อและประมูลสินค้าผ่านทางออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ผลิตให้เลือกมากมาย และยังโปร่งใสตรวจสอบได้ ต้องมีชื่อ “พันธวณิช” ลอยเด่นเป็นแบรนด์แรกในใจทุกองค์กรอย่างแน่นอน
แต่กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ต้องยอมรับว่า หนทางของ “พันธวณิช” ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย ต้องอาศัยทั้งความขยัน ต่อสู้ และอดทนเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครอธิบายเส้นทางความสำเร็จนี้ พร้อมทั้งภาพใหม่ของพันธวณิชที่จะเติบโตใหญ่กว่าเดิมได้ดีเท่า อภิสิทธิ์ คุปรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พันธวณิช จำกัด
จุดกำเนิด eProcurement สายพันธุ์ไทย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2544 หลังวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งได้ไม่นาน บริษัท พันธวณิช จำกัด ได้ปักหมุดขึ้นในประเทศไทย จากการมองเห็นความจำเป็นในการเข้าสู่โลกการค้ายุคใหม่ที่จะมีอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญ และการเล็งเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีมาสร้างโอกาสการทำธุรกิจตลาดกลางการค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มซีพีและกลุ่มเทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น หรือทีเอ โดยมุ่งหวังที่จะลดต้นทุนในการจัดซื้อขายและประมูลอุปกรณ์ให้กับธุรกิจในเครือ รวมถึงให้บริการแก่ลูกค้ารายอื่น ๆ ในประเทศไทย
ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจ แม้จะได้องค์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทยมาร่วมเส้นทางธุรกิจ อีกทั้งแนวคิดของ eProcurement Platform ล้วนเต็มไปด้วยข้อดีจากการที่ธุรกิจสามารถลดต้นทุนจากการสร้างระบบจัดซื้อที่มาตรฐานขององค์กรผ่านระบบออนไลน์ และยังตรวจสอบย้อนกลับได้ จึงโปร่งใส แต่ทว่าเส้นทางกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
เนื่องจากธุรกิจนี้เป็นแนวคิดใหม่ อีกทั้งยุคนั้นยังเป็นยุคที่มี eProcurement Platform ชั้นนำจากต่างประเทศเข้ามาปักหมุดในประเทศไทยจำนวนมาก ที่สำคัญยังต้องผลักดันผู้บริหารเบอร์ 1 ขององค์กรให้เข้าใจและเชื่อมั่นในระบบดังกล่าวด้วย
“3-4 ปีแรก เป็นช่วงที่เราเรียนรู้ เพราะ Mission ในช่วงแรกถูกตั้งขึ้นเพื่อให้บริการกับ 5 องค์กรขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ เราจึงเลือกใช้ระบบเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด ส่งผลให้ต้นทุนสูงมาก แต่ได้ Benefit น้อย และมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่มาก”
อภิสิทธิ์ อธิบายให้ฟังถึงขวากหนามระยะแรกของการทำธุรกิจ และเป็นโจทย์สำคัญให้พันธวณิชต้องกลับมาขบคิดเพื่อจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ กระทั่งในที่สุดได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนวิถีคิดใหม่ โดยหันมามุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ของตัวเอง ซึ่งในช่วงแรกสามารถจะเข้าไปทดแทนในบางแพลตฟอร์มได้ จึงเดินหน้ารุกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันพันธวณิชกลายเป็นหนึ่งในผู้นำ eProcurement Platform ที่ครอบคลุมการให้บริการแบบ End-to-End และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
ไม่เพียงแค่นั้น เพราะผลจากการเปลี่ยนวิถีคิดใหม่ ยังค่อย ๆ ออกดอกออกผลให้เห็นผ่านผลประกอบการที่โตวันโตคืน ทั้งยังได้รับความไว้วางใจในการใช้บริการจากองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ของประเทศ ทั้งธุรกิจธนาคารและประกันภัย ธุรกิจโทรนาคม อุตสาหกรรม ธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า โดยมูลค่าการซื้อขายผ่านระบบจัดซื้อออนไลน์จากปีแรกที่มีมูลค่าเพียง 200 ล้านบาท ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ล้านบาทในปัจจุบันจากผู้ใช้งานใน 10 ประเทศ ขณะเดียวกันฐานสมาชิกผู้ขายที่เข้ามาเสนอสินค้าแบบองค์กรต่อองค์กรก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น จากที่มีเพียงไม่กี่รายในช่วงแร กปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 20,000 ราย
นอกจากนี้ พันธวณิชยังได้ชื่อว่าเป็น eProcurement ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในอาเซียน ทั้งยังจัดเป็นบริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสัญชาติไทยหนึ่งเดียวในเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 Procurement Tech Solution Providers 2018 จากนิตยสาร APAC CIOoutlook ในฉบับ Procurement Tech Special รวมถึงได้รับเกียรติให้ขึ้นหน้าปกในฉบับนี้อีกด้วย
อภิสิทธิ์ กล่าวให้ฟังอย่างภาคภูมิใจถึงสาเหตุของการได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า เนื่องจากพันธวณิชสามารถเข้าไปช่วยลูกค้า Transform ธุรกิจจนประสบความสำเร็จ โดยใช้ดิจิทัลแบบ End-to-End eProcurement ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มยังมีความสมบูรณ์แบบ รวมถึงการวาง Vision และ Strategy ที่เหนือชั้นในการขับเคลื่อนองค์กร โดยเป็นมากกว่า eProcurement ทั่วไป
ทั้งหมดจึงถือเป็นการตอกย้ำถึงจุดแข็งและการยอมรับในคุณภาพมาตรฐานแพลตฟอร์มของไทยที่ไม่แพ้อินเตอร์แบรนด์ในต่างประเทศ และยังเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงวิถีคิดและความสำเร็จของพันธวณิชได้เป็นอย่างดี
Customer + Trust คือ อาวุธลับ
กุญแจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างชื่อพันธวณิชให้คงอยู่และเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้ อภิสิทธิ์ อธิบายให้ฟังว่ามาจาก 3 ปัจจัยหลักด้วยกัน คือ 1. การยึดความสำเร็จของลูกค้าเป็นที่ตั้ง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมุ่งรับฟังเสียงของลูกค้าเป็นอย่างมาก เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ Pain Point ของลูกค้าและซัพพลายเออร์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจลูกค้าขับเคลื่อนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้พันธวณิชได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และทำให้ลูกค้าใช้บริการต่อเนื่องกันมายาวนาน และมี Volume การซื้อขายเติบโตขึ้นทุกปี
ความโดดเด่นของระบบ eProcurement Platform ที่แตกต่างและมีคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศ และ 3.การโฟกัสเฉพาะ eProcurement Platform เพียงอย่างเดียว
“ถ้าเราเอาการค้าเป็นที่ตั้ง เราคงขยายธุรกิจไปแนวอื่น แต่เรามุ่งโฟกัส eProcurement อย่างเดียว และเมื่อขยายการเติบโตไปข้างหน้า เรายังคงโฟกัส eProcurement Platform เราจึงเป็นบริษัทเพียงไม่กี่บริษัทที่มีแพลตฟอร์มสมบูรณ์แบบ โดยเป็น End-to-End eProcurement Platform ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการสรรหาผู้ขาย การจัดซื้อ จนถึงการจ่ายเงิน และระบบคอนซัลติ้งเฟิร์ม”
อภิสิทธิ์ ย้ำถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์และบริการของพันธวณิชที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด พร้อมกับอธิบายว่า สาเหตุที่ผู้ให้บริการ eProcurement Platform ล้มหายตายจากกันไป ทั้ง ๆ ที่ในยุคแรกมีผู้ให้บริการจำนวนมากนั้น เป็นเพราะรายได้ธุรกิจ eProcurement มาจากค่าบริการตามจำนวน Volume ดังนั้น ถ้า Volume ในการทำทรานเซ็กชั่นผ่านระบบไม่มากพอ เม็ดเงินที่จะหล่อเลี้ยงบริษัทจะอยู่ได้ยาก ขณะเดียวกันหากบริษัทเหล่านั้นใช้ License ต่างประเทศ จะต้องแบกรับค่า License เพิ่มขึ้น และถึงแม้จะไม่ใช้ License จากต่างประเทศ แต่ก็ต้องมีต้นทุนในการพัฒนาแพลตฟอร์มสูงมาก
“ถามว่าธุรกิจนี้ยากไหม บอกเลยว่ายาก กว่าเราจะขับเคลื่อนมาถึงจุดนี้ได้ โดยช่วงแรกต้องอาศัยการบิวด์ Volume ขึ้นมา และการซื้อขายผ่านระบบต้องได้รับการเชื่อถือจริง ๆ”
Turning Point สู่ความยิ่งใหญ่ครั้งใหม่
แม้จะเติบโตอยู่ในสนาม eProcurement มายาวนาน แต่แม่ทัพใหญ่แห่งพันธวณิช ยอมรับว่าตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ด้วยสไตล์การบริหารธุรกิจที่ค่อนข้างจะ Conservative ไม่หวือหวา ทำให้ชื่อของ “พันธวณิช” ยังไม่เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าองค์กรอีกมาก และจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้ภาพของพันธวณิชในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มเปลี่ยนไป โดยค่อนข้าง Aggressive มากขึ้น พร้อมทั้งมีการตั้งทีมการตลาดและทีมขายเพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดธุรกิจให้ก้าวหน้าไปอีกขึ้นสู่การเป็น “The Best eProcurement in ASIA”
“มัน Beyond เพราะวันนี้บริษัทมีฐานะการเงินที่มั่นคง ฉะนั้น Personal Goal ของผม อยากจะทำให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีไทยอย่างพันธวณิช สามารถขึ้นไปยืนอยู่ชั้นแนวหน้าในระดับภูมิภาคเอเชีย และผมคิดว่าบริษัทไทยทำได้ เพราะในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ผู้พัฒนา Application ขององค์กรขนาดใหญ่ระดับโลกล้วนเป็นคนเอเชียมากขึ้นเรื่อย ๆ นักพัฒนาจากจีนก็ได้พิสูจน์เช่นเดียวกันว่าแพลตฟอร์มที่เขาผลิตนั้นไม่แพ้แพลตฟอร์มจากอเมริกาหรือยุโรปเลย พันธวณิชอยากพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดซื้อและการประมูลที่ช่วยให้บริษัทในภูมิภาคเอเชียสามารถบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ เพื่อกำไรที่สูงขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้คนนึกถึงพันธวณิชในฐานะบริษัทไทยที่เป็น Leading International Platform Provider อย่างแท้จริง”
อภิสิทธิ์ บอกถึงแรงบันดาลใจในการเดินหน้าครั้งใหญ่ของพันธวณิช โดยนอกจากการตั้งทีมการทำตลาดและทีมขายเพิ่มขึ้นจากเดิมแล้ว ยังเปิดเกมรุกขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยวางแผนจะเข้าไปตั้งสำนักงานสาขาในแต่ละประเทศ ซึ่งเบื้องต้นจะเลือกโลเคชั่นหลัก ๆ 2-3 ประเทศก่อน ตอนนี้มีมองที่ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
“จากประสบการณ์ 17-18 ปี ในการพัฒนาแพลตฟอร์มให้องค์กรขนาดใหญ่ ทำให้เรารู้วิธีการทำแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์องค์กรอาเซียน อีกทั้งความเป็นคนอาเซียนด้วยกัน ทำให้เข้าใจภาษาและวัฒนธรรม รวมถึงได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาเทคโนโลยี Know How และคนที่มีความสามารถจาก Leading Company และ Silicon Valley จึงมั่นใจว่าแพลตฟอร์มของเราจะแตกต่างและตอบโจทย์องค์กรในอาเซียน”
อภิสิทธิ์ บอกถึงจุดได้เปรียบของพันธวณิชในการขยายตลาดอาเซียน พร้อมทั้งมั่นใจว่า ภาพใหม่ของพันธวณิชในการรุกสู่อาเซียน จะได้เห็นเด่นชัดมากขึ้นภายในปีหน้าแน่นอน
OnePlanet ปฏิวัติระบบจัดซื้อในโลกธุรกิจ
นอกจากการปูพรมขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนแล้ว ภาพใหม่ของพันธวณิชยังจะมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มตัวใหม่ในชื่อ “OnePlanet Standard” เพื่อให้บริการกับกลุ่มองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กได้ใช้แพลตฟอร์มในราคาเหมาะสมและมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพราะหลายครั้งที่บริษัทเข้าไปเสนอแพลตฟอร์มกับลูกค้ากลุ่มนี้ พบว่ามีความต้องการใช้ แต่ติดเรื่องราคาสูงเกินไป
“เราไม่เอาราคาถูกมาเป็นตัวบอกว่าคุณภาพจะลดลง แต่คุณภาพต้องดีหรือดีกว่า ในราคาสมเหตุสมผล เราจึงพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ขึ้น โดยยึดหลัก digitize customer’s procurement to achieve digital standard procurement ของลูกค้าจริง ๆ ซึ่งได้เริ่มนำร่องโครงการมาประมาณ 1 ปี”
อภิสิทธิ์ ยอมรับว่าตลาด eProcurement สำหรับกลุ่มองค์กรขนาดกลางและเล็ก เป็นตลาดที่มีคู่แข่งจากแบรนด์ต่างชาติจำนวนมาก แต่เขาเชื่อว่า ตลาดนี้ยังมีโอกาสอีกมากเช่นกัน เพราะสามารถไปได้เกือบทุกเซ็กเตอร์ ทั้งกลุ่มก่อสร้าง, ค้าปลีก, สถาบันการเงิน และการศึกษา เมื่อผนวกับจุดเด่นของ OnePlanet Standard นอกจากราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเห็นการเบิกจ่าย รวมถึงมีเครื่องมือที่ทำให้บริษัทขนาดกลางสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่ ช่วยให้ต้นทุนถูกลง จึงนับเป็นการ Digitization ระบบการค้าขายทั้งหมด อีกทั้งถ้าบริษัทใหญ่ขึ้นและขยายไปต่างประเทศ ก็จะเป็นการส่งเสริมการค้าขายในต่างประเทศให้เติบโตมากขึ้นนั่นเอง
ผงาดสู่เวทีระดับโลก
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์และบริการของพันธวณิชนั้นครอบคลุม 6 องค์ประกอบของการทำ eProcurement Platform ซึ่งประกอบด้วย 1. Procurement Application 2. Spend Analysis 3. A Group of Professional and Experienced Team 4. eAuction Platform 5. Supplier Network และ 6. Professional Cost Reductio
พร้อมกันนี้ ยังมีแผนจะร่วมกับบริษัทให้คำปรึกษาในทวีปยุโรปในการให้บริการ Consulting Firm เพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้นำร่องโครงการกับ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในการพัฒนาขบวนการทำงานของลูกค้า โดยนำ Data ในมุมต่าง ๆ มาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนกลยุทธ์การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยลดต้นทุนและย่นระยะเวลาการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีบริษัทอีก 2-3 รายที่ให้ความสนใ
“คิดว่าเราอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะเทคโนโลยีไม่มีคำว่าที่สุด และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราก็ต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ เป็นการเอาชนะความท้ายทายของตัวเอง ก็เหมือนนักมาราธอน ที่ต้องพัฒนาตัวเองให้วิ่งเร็วและไกลขึ้นตลอดเวลา
อภิสิทธิ์ ย้ำถึงความครบเครื่องของพันธวณิชในวันนี้ พร้อมกับตอกย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า เป้าหมายต่อไปของเขา นอกจากการนำพาพันธวณิชก้าวสู่การเป็น “The Best eProcurement in ASIA” แล้ว ยังต้องการจะเป็น “ผู้ที่สร้างแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ด้านอื่น ๆให้กับองค์กรธุรกิจ” ซึ่งตอนนี้มีการทำ Trial Project และกำลังไปได้ด้วยดี
“เราอยากค่อยเป็นค่อยไปแต่เน้นคุณภาพของการบริการให้องค์กรยอมรับ เพราะเคยเห็นบริษัทที่ไม่ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไปประเทศอื่น ๆ จำนวนมาก ที่ Roll Out Business in Global Scale แล้ว Fail เพราะยังขาดความพร้อมในหลายด้าน จึงอยากเดินหน้าด้วยคุณภาพให้ลูกค้าพึงพอใจที่สุด และหากทุกอย่างไปได้ดี Global Market ก็อยู่ในแผนต่อไป” อภิสิทธิ์ ย้ำท้ายถึงเป้าหมายของพันธวณิช ซึ่งแน่นอนว่า การขยับจากนี้ไปย่อมส่งแรงสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน
และเราเชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ เราคงได้เห็น eProcurement สายพันธุ์ไทยอย่าง “พันธวณิช” ผงาดในเวทีระดับโลกอย่างสง่างาม